วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ราชาเพลงลูกทุ่ง

ประวัติ


สายัณห์ สัญญา มีชื่อจริงเดิมว่า สายัณห์ ดีเสมอ มีชื่อเล่นว่า " เป้า " เกิดเมื่อวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2496 ที่ ต. ป่าสะแก อ.เดิมบางนางบวช จ. สุพรรณบุรี เป็นบุตรนายอ่อง และนางบุญช่วย ดีเสมอ ซึ่งประกอบอาชีพเป็นชาวนา สายัณห์ จนจบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนวัดป่าสะแก ซึ่งอยู่ใกล้ๆบ้าน จากนั้นออกมาช่วยพ่อแม่ทำนา สายัณห์ชอบการร้องเพลงลูกทุ่งมาตั้งแต่เด็ก เคยประ กวดร้องเพลงมามากมาย ต่อมาเขาไปสมัครเป็นนักร้องอยู่วงดนตรีเทียนชัย สมยาประเสริฐ(สามี ผ่องศรี วรนุช)แต่ยังไม่ได้ออกหน้าเวที จากนั้นได้ย้ายไปอยู่กับวงดนตรีผ่องศรี วรนุช (ซึ่งแยกตัวออกมาจากเทียนชัย)ตามคำชักชวนของราเชนทร์ เรืองเนตร ที่นี่สายัณห์เริ่มออกเวทีในฐานะหางเครื่อง ต่อมาก็ได้มีโอกาสร้องเพลงด้วย ช่วงนี้เขาร้องเพลงแนวศรคีรี ศรีประจวบ เป็นหลัก สายัณห์อยู่ที่นี่ได้ 3 ปี วงก็ยุบ
จากนั้นว่าที่นักร้องดังแห่งยุค ก็ไปอยู่กับวงดนตรีอีกมากมายหลายวง อย่าง "รวมดาวกระจาย" ของครูสำเนียง ม่วงทอง , บรรจบ เจริญพร , ก้าน แก้วสุพรรณ และชินกร ไกรลาศ โดยในยุคนี้ สายัณห์ ใช้ชื่อว่า " กัมชัย ลูกราษฎร์บำรุง "
ต่อมาสายัณห์มาอยู่กับวง" รวมพร " ของคุณเล็ก และคุณน้อยศรี อิงคะนันท์ เจ้าของปั๊มน้ำมันพรรุ่งโรจน์ ย่านบุคคโล และได้รับการสนับสนุนจากคนทั้งสองให้บันทึกเสียงเป็นครั้งแรก คือ" รักเธอเท่าฟ้า " ของครูฉลอง การะเกต ซึ่งทำให้เขาพอจะเป็นที่รู้จักของแฟนเพลงอยู่บ้าง
วันหนึ่งขณะที่สายัณห์ ช่วยงานล้างรถอยู่ที่ปั๊มน้ำมัน ชลธี ธารทอง ครูเพลงชื่อดังที่ตอนนั้นยังเป็นนักร้อง และนักแต่งเพลงที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียง และตัดสินใจจะกลับไปใช้ชีวิตชาวไร่ที่บ้านนอก เพราะไม่ประสบความสำเร็จฃในวงการเพลง ได้แวะมาเข้าห้องน้ำที่ปั้มแห่งนี้ และได้ยินสายัณห์ ร้องเพลงของศรคีรีได้ถูกใจ หลังได้คุยกัน สายัณห์บอกว่าเขาอยากเป็นนักร้อง และมีนายทุน ซึ่งก็คือ เจ้าของปั้ม ชลธี จึงมอบเพลง"ลูกสาวผู้การ" และ" แหม่มปลาร้า" ให้สายัณห์ฟรีๆ โดยเดิมที 2 เพลงนี้ชลธีกะแต่งให้ศรคีรี แต่ศรคีรีโชคร้าย ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิตไปก่อน และ 2 เพลงนี้นี่เองที่ทำให้สายัณห์ได้แจ้งเกิดในวงการเต็มตัว และนำหนุ่มชาวไร่ข้าวโพดอย่างชลธี ธารทองกลับมาโลดแล่นในวงการลูกทุ่งเมืองไทย หลังจาก 2 เพลงแรกโด่งดัง ก็ทำให้แพลงแรกของสายัณห์อย่าง " รักเธอเท่าฟ้า " โด่งดังตามไปด้วย
ปี 2516 มีการตั้งวงดนตรีสายัณห์ สัญญา และ นับตั้งแต่นั้น สายัณห์ ก็ผลิตผลงานออกมาประดับวงการลูกทุ่งเมืองไทยมากมาย
[แก้]ผลงาน


สายัณห์ สัญญา ผลิตผลงานเพลงออกมามากมายหลายสิบชุดเช่น
เกลียดห้องเบอร์ห้า
กินอะไรถึงสวย
กลิ่นแก้มนาง
ขับรถหารัก
ของขวัญให้แฟน
ขวัญใจคนเดิม
เขมรไล่ควาย
ของขวัญให้แฟน
ความรักเหมือนยาขม
คนซื่อที่ไร้ความหมาย
ความรักสีดำ
คิดถึงสายัณห์
คนไม่มีหัวใจ
จากบ้านนาด้วยรัก
ฉันรักเมืองไทย
ฟ้าบันดาล
ดอกฟ้า เมืองไทย
น้ำตาอีสาน
นางกวักมหาเสน่ห์
นางฟ้ายังอาย
ในอ้อมกอด
เปิดผนึกบันทึกช้ำ
เปิดเทอมรอรัก
มนต์เสียงเพลง
ไม่มีใครรักจริง
มีแฟนหรือเปล่า
มันจะเหลือเรอะ
ยืนใจลอยคอยแฟน
รักคนชื่อเพ็ญ
รักสาวระยอง
รักเธอเท่าฟ้า
รักจนขาดใจ
ลาบางกอก
ลืมไม่ลง
วอนหาคู่
วันสุดท้าย
ลานเทสะเทือน
สายัณห์ขายใจ
สายัณห์คอยแฟน
สายัณห์เพ้อ
สุขสันต์วันเศร้า
เสียงขลุ่ยเรียกนาง
สายัณห์รักจริง
สิ้นทางรัก
สายัณห์แสดงสด
สายัณห์คอยคู่
สายัณห์ ปีทอง 28
หนุ่มพเนจร
หนุ่มรำโทน
หยาดเพชร
หนุ่มข้าวจ้าวสาวข้าวเหนียว
เหมือนข้าวลืมเคียว
ห้องนอนคนจน
อ้อนจันทร์
อยากกินคนใจดำ
ไอ้หนุ่มรถไถ
อมตะเสียงทอง
อกหักที่หมอชิต
สายัณห์วอนแฟน (ก.พ.2550)
ผลงานเพลงดัง
สายัณห์ สัญญา บันทึกเสียงเอาไว้กว่า 1,200 เพลง และในจำนวนนั้นมีเพลงที่ได้รับความนิยมจากแฟนเพลงมากมาย อาทิเช่น
รักเธอเท่าฟ้า
ลูกสาวผู้การ
แหม่มปลาร้า
ขาดเธอพี่ขาดใจ
นางฟ้ายังอาย
มีแฟนหรือเปล่า
คำสั่งเตรียมพร้อม
แม่ดอกซอมพอ
ทหารกองหนุน
กินอะไรถึงสวย
นางกวักมหาเสน่ห์
พบรักปากน้ำโพ
ลานเทสะเทือน
ถึงชั่วก็รัก
บอกแล้วน้องรวง
ปิดห้องร้องไห้
น้ำตาชาวใต้
ยินดีรับเดน
ล้นกล้าเผ่าไทย
จำปาลืมต้น
หวานเป็นลมขมเป็นยา
นักเพลงคนจน
มนต์รักกาสะลอง
ฝากใจไว้อีสาน
ขาดเธอพี่ระทม
คาถามัดใจ
เกลียดห้องเบอร์ห้า
สัมพันธ์รักนักเพลง
ไก่จ๋า
วานนี้รักวันนี้ลืม
เธอมีของดีฃ
แด่คนชื่อเจี๊ยบ
ผู้เสียสละ
เสียความรู้สึก
คนอกหักพักบ้านนี้
ยืนใจลอยคอยแฟน
เหนือคำสาบาน
หนึ่งปีที่ทรมาณ
ลารักจากสวนแตง
ตัวไกลใจเหงา
[แก้]ผลงานการแสดง

ลูกทุ่งพเนจร (2527)จารุณี สุขสวัสดิ์ ร่วมแสดง
นักร้องนักเลง พุ่มพวง ดวงจันทร์ , นันทิดา แก้วบัวสาย , แวว มยุรา ร่วมแสดง
นักร้องปืนโหด นันทิดา แก้วบัวสาย , พอเจตน์ แก่นเพชร ,ทวนทน คำมีศรี ร่วมแสดง
ลูกทุ่งเสียงทอง (2528) ทูน หิรัญทรัพย์ , สินจัย หงษ์ไทย , สดใส รุ่งโพธิ์ทอง , ศรเทพ ศรทอง ร่วมแสดง
แพแตก นันทิดา แก้วบัวสาย , พอเจตต์ แก่นเพชร , พิศมัย วิไลศักดิ์ ร่วมแสดง

ราชินีเพลงลูกทุ่ง

ประวัติ พุ่มพวง ดวงจันทร์

เจ้าของฉายา ราชินีลูกทุ่ง มีน้ำเสียงออดอ้อน หวาน จำเนื้อร้องได้แม่นทั้งที่ไม่รู้หนังสือ และเป็นแม่แบบให้กับนักร้องรุ่นหลัง



ประวัติ พุ่มพวง ดวงจันทร์ หรือ ผึ้ง รำพึง จิตรหาญ



พุ่มพวง ดวงจันทร์ (4 สิงหาคม พ.ศ. 2504 - 13 มิถุนายน พ.ศ. 2535) ชื่อเล่น ผึ้ง หรือชื่อจริง รำพึง จิตรหาญ นักร้องเพลงลูกทุ่ง เจ้าของฉายา ราชินีลูกทุ่ง ได้ชื่อว่ามีน้ำเสียงออดอ้อน หวาน จำเนื้อร้องได้แม่นทั้งที่ไม่รู้หนังสือ และเป็นแม่แบบให้กับนักร้องรุ่นหลัง



ประวัติ พุ่มพวง ดวงจันทร์

รำพึง จิตรหาญ เกิดที่ตำบลบ่อสุพรรณ อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรีเป็นบุตรคนที่ 1 จาก 3 คนของนายสำราญ และนางเล็ก จิตรหาญ ครอบครัวมีอาชีพรับจ้างทำไร่อ้อย





ชื่อจริง รำพึง จิตรหาญ
ชื่อเล่น ผึ้ง
ฉายา พุ่มพวง ดวงจันทร์
น้ำผึ้ง เมืองสุพรรณ
น้ำผึ้ง ณ ไร่อ้อย
วันเกิด 4 สิงหาคม พ.ศ. 2504
แหล่งกำเนิด จังหวัดสุพรรณบุรี
วันที่เสียชีวิต 13 มิถุนายน พ.ศ. 2535 (อายุ 30 ปี)
แนวเพลง เพลงลูกทุ่ง
อาชีพ นักร้อง
ปี พ.ศ. 2515 - พ.ศ. 2535
ค่าย อโซน่า



เส้นทางนักร้อง

รำพึง ชื่นชอบการร้องเพลงลูกทุ่งตั้งแต่เด็กเดินสายประกวดร้องเพลงลูกทุ่งใช้ชื่อว่าน้ำผึ้ง ณ ไร่อ้อย และมาอยู่กับวงดนตรี ดวง อนุชา ตั้งแต่อายุประมาณ 10 ขวบ เมื่ออายุได้ 15 ปี บิดาและน้าชายของรำพึงฝากฝังให้เป็นบุตรบุญธรรมของไวพจน์ เพชรสุวรรณ โดยใช้ชื่อว่า น้ำผึ้ง สกุณี ก่อนที่ไวพจน์ จะแต่งเพลงและอัดแผ่นเสียงชุดแรกให้ ชื่อเพลงแก้วรอพี่ และหันมาใช้ชื่อในการร้องเพลงว่า น้ำผึ้ง เมืองสุพรรณ เมื่อ พ.ศ. 2519

ต่อมา ลาออกจากวงไวพจน์มาพร้อมกับธีระพล แสนสุข ไปอยู่กับวงดนตรีศรเพชร ศรสุพรรณ เป็นทั้งนักร้องพร้อมกับเต้นหางเครื่องด้วย และย้ายมาอยู่กับขวัญชัย เพชรร้อยเอ็ด หลังจากอยู่กับศรเพชรไม่นาน และได้บันทึกเสียงจากการแต่งของก้อง กาจกำแหง ร้องแก้ขวัญชัย เพลงนั้นคือ รักไม่อันตรายและรำพึง ใช้ชื่อในการร้องเพลงว่า พุ่มพวง ดวงจันทร์ จากการตั้งชื่อโดย มนต์ เมืองเหนือและตั้งวงดนตรีเป็นของตนเอง โดยการสนับสนุนของคารม คมคาย นักจัดรายการวิทยุ มนต์ เมืองเหนือแต่ไม่ประสบความสำเร็จก็มาสังกัดบริษัทเสกสรรเทป-แผ่นเสียงผลงานของพุ่มพวง ดวงจันทร์เริ่มประสบความสำเร็จในเวลาต่อมาหลังจากได้รับการสนับสนุนจากประจวบ จำปาทองและปรีชา อัศวฤกษ์นันท์ให้ตั้งวงร่วมกับเสรี รุ่งสว่าง ในชื่อวง เสรี-พุ่มพวง จากจุดนี้ก็ได้รับความสำเร็จขึ้นพุ่มพวง มีชื่อเสียงสูงสุดในช่วงปี พ.ศ. 2515-2534หลังจากออกจากเสกสรรเทป-แผ่นเสียงมาอยู่ในสังกัดอโซน่าด้วยเพลงจากการแต่งของลพ บุรีรัตน์ที่พลิกแนวให้หันมาร้องเพลงสนุก ๆ และได้การตอบรับจากคนฟังเป็นอย่างมาก เพลงที่มีชื่อเสียง ได้แก่ สาวนาสั่งแฟน ซึ่งเป็นเพลงจุดประกาย ก่อนจะตามมาด้วยเพลง นัดพบหน้าอำเภอ, อื้อฮือหล่อจัง,ดาวเรืองดาโรย, คนดังลืมหลังควาย, นักร้องบ้านนอก, บทเรียนราคาเพลง, หม้ายขันหมาก และอื่นๆอีกมาก นอกจากนี้ ยังได้เป็นผู้ร้องเพลง ส้มตำ (เพลงพระราชนิพนธ์) พระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารีพุ่มพวงเข้าสู่วงการภาพยนตร์ และแสดงหนังเรื่องแรก สงครามเพลง สร้างโดยฉลอง ภักดีวิจิตร และอีกหลายเรื่อง ในช่วงที่แสดงภาพยนตร์เรื่อง มนต์รักนักเพลง ได้พบกับ (ไกรสร แสงอนันต์) ไกรสรได้พาพุ่มพวงพามาเข้าสังกัด อ.ไพจิตร ศุภวารี และมีผลงานอีกหลายชุด เช่น ตั๊กแตนผูกโบว์ โลกของผึ้ง หลังจากนั้นมาอยู่กับห้างท็อปไลน์





ลาลับ

พุ่มพวงหายหน้าไปจากวงการเนื่องจากป่วยด้วยโรคเอสแอลอีหรือโรคแพ้ภูมิตัวเองก่อนจะเสียชีวิตเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2535สิริอายุได้ 31 ปี สวดอภิธรรมศพที่วัดมกุฏกษัตริยาราม พิธีพระราชทานเพลิงศพของพุ่มพวง ดวงจันทร์ จัดที่วัดทับกระดาน อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. พ.ศ. 2535 โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธี นอกจากนี้ยังมีการสร้างหุ่นพุ่มพวง ตั้งอยู่ในศาลาริมสระน้ำ วัดทับกระดาน อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งมีการจัดงานรำลึกถึงพุ่มพวงทุกปี ช่วง 13-15 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันครบรอบการเสียชีวิตของเธอ

ผลงาน

การร้องเพลง

ตั๊กแตนผูกโบว์
หม้ายขันหมาก
อื้อฮือหล่อจัง
สาวนาสั่งแฟน
ดาวเรืองดาวโรย
อายแสงนีออน
นักร้องบ้านนอก
บทเรียนราคาแพง
หม้ายขันหมาก
ส้มตำ
เพลงรักบ้านทุ่ง


แสดงภาพยนตร์

2530 เพลงรัก เพลงปืน
2530 เชลยรัก
2528 ที่รัก เธออยู่ไหน
2527 จงอางผงาด
2527 ขอโทษที ที่รัก
2527 อีแต๋น ไอเลิฟยู
2527 อาจารย์เด๋อเจอพุ่มพวง
2527 สาวนาสั่งแฟน
2527 นางสาวกะทิสด
2527 ชี
2527 คุณนาย ป.4
2527 มนต์รักนักเพลง
2526 รอยไม้เรียว
2526 สงครามเพลง (คู่กับ ยอดรัก สลักใจ)

ราชาเพลงป็อป

กลายเป็นข่าวใหญ่ระดับโลกขึ้นมาทันที หลังนักร้องซุปเปอร์สตาร์ "ไมเคิล แจ็คสัน" เสียชีวิตลงอย่างกะทันหันด้วยอาการหัวใจวาย ที่นครลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐฯ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (26 มิถุนายน) ตามเวลาในประเทศไทย ถือเป็นการปิดตำนานราชาเพลงป๊อบชื่อดัง เจ้าของท่าเต้น "มูน วอล์ค" ด้วยวัย 50 ปี ดังนั้นวันนี้กระปุกจะพาไปย้อนรำลึกถึง "ไมเคิล แจ็คสัน" กันค่ะ

          ไมเคิล แจ็คสัน (Michael Jackson) มีชื่อเต็มว่า ไมเคิล โจเซฟ แจ็คสัน (Michael Joseph Jackson) หรือเรียกย่อๆ ว่า เอ็มเจ (MJ) หรือ แจ็คโก้ (Jacko) เกิดเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 1958 (พ.ศ.2501) ที่อินเดียน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเป็นลูกคนที่ 7 ในบรรดาพี่น้อง 9 คน ของ โจเซฟ วอล์เตอร์ และแคทเธอรีน เอสเตอร์




          เส้นทางสู่นักร้องของไมเคิล แจ็คสัน เริ่มต้นตั้งแต่เขามีอายุได้เพียง 7 ปี เมื่อได้เป็นนักร้องนำของวง "เดอะ แจ็คสัน ไฟว์" (The Jackson 5) และเมื่อเขาอายุ 11 ปี ได้ออกอัลบั้ม "Got to Be There" เป็นอัลบั้มเดี่ยวชิ้นแรกของเขา ซึ่งก็สร้างความตื่นตะลึงให้วงการเพลง เมื่อเพลงของเขาสามารถทะยานขึ้นอันดับ 1 ของชาร์ตได้สำเร็จ ถึง 3 เพลง และในปี พ.ศ.2522 ได้มีผลงานชุด "Off the Wall" ซึ่งทำยอดขายได้กว่า 20 ล้านก็อปปี้ทั่วโลก ก่อนจะมีผลงานชุด "Thriller" ในปี พ.ศ.2525 ซึ่งสามารถจำหน่ายได้ถึง 60 ล้านชุด ทำสถิติเป็นอัลบั้มที่มียอดขายสูงที่สุดในประวัติการณ์ จนกระทั่งปี พ.ศ.2530 ไมเคิลได้ออกอัลบั้ม "Bad" และสร้างสถิติเป็นอัลบั้มที่มีซิงเกิ้ลต่างๆ ขึ้นชาร์ตอันดับ 1 ในบิลบอร์ดมากที่สุด





          ในปี พ.ศ.2534 ไมเคิลได้ออกอัลบั้ม "Dangerous" ที่มีเพลง "Black or White" โด่งดังจนติดอันดับ 1 ทั้งในบิลบอร์ดและชาร์ตเพลงทั่วโลก ก่อนที่จะออกอัลบั้ม "History" และส่งให้เพลง "You’re Not Alone" กลายเป็นซิงเกิ้ลแรกในประวัติศาสตร์ที่ติดอันดับ 1 ตั้งแต่สัปดาห์แรกที่วางจำหน่าย

          ความโด่งดังของ ไมเคิล แจ็คสัน รวมทั้งท่าเต้น "มูน วอล์ค" และ "ลูบเป้า" อันเป็นเอกลักษณ์สร้างชื่อของเขา ทำให้ไมเคิล ได้เดินทางไปเปิดคอนเสิร์ตทั่วโลก รวมทั้งที่ประเทศไทยด้วย โดยไมเคิล แจ็คสัน เคยเดินทางมาเปิดคอนเสิร์ตที่เมืองไทย 2 ครั้ง คือในปี พ.ศ.2536 ที่สนามศุภชลาศัย เป็นการโปรโมตปิดอัลบั้ม Dangerous ซึ่งแฟนเพลงชาวไทยให้ความสนใจอย่างมาก และถือเป็นการแสดงคอนเสิร์ตใหญ่ของนักร้องชาวต่างประเทศระดับโลกครั้งแรกของไทย แต่ก็ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาเช่นกัน เพราะบางส่วนเห็นว่าท่าเต้น "ลูบเป้า" ไม่เหมาะสมกับวัฒนธรรมไทย ส่วนคอนเสิร์ตครั้งที่ 2 ของไมเคิล แจ็คสัน ในเมืองไทย จัดขึ้นในกลางปี พ.ศ.2538 ที่เมืองทองธานี เพื่อโปรโมตอัลบั้ม History แต่ไม่ได้รับความสนใจเท่าคอนเสิร์ตครั้งแรก




          นอกจากนี้ชื่อของไมเคิล แจ็คสัน ยังได้ปรากฎอยู่ในเพลง "ทับหลัง" ของวงคาราบาว เมื่อปี พ.ศ.2531 ที่ครั้งนั้น เพลงนี้ ได้ถูกนำไปใช้ในการเรียกร้องทวงคืนทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์จากสหรัฐอเมริกา ในเนื้อร้องว่า "เอาไมเคิล แจ็คสัน คืนไป เอาพระนารายณ์คืนมา"

          ทั้งนี้ เรื่องชีวิตส่วนตัวของไมเคิล นั้น เขาถูกมองว่า ชอบทำตัวเด่นดังและให้เป็นข่าวอยู่เสมอ และใช้ชีวิตอย่างโอเวอร์เกินคนธรรมดา เช่น การซื้อคฤหาสน์ส่วนตัวในชื่อ "Never Land" อีกทั้งยังชอบทำตัวแปลกๆ เช่น การแต่งตัวแปลกๆ ปรากฎในที่สาธารณะ รวมทั้งเคยแต่งตัวเป็นผู้หญิงในห้องน้ำหญิงสาธารณะ หรือการที่เปลี่ยนสีผิวตัวเองจากผิวดำ ให้กลายเป็นผิวขาวซีด และการผ่าตัดศัลยกรรมใบหน้าด้วยซิลิโคนหลายต่อหลายครั้ง




          สำหรับชีวิตครอบครัวของ ไมเคิล แจ็คสัน นั้น ไมเคิล ได้แต่งงานกับ "ลิซ่า มี เพรสลีย์" ลูกสาวของราชาเพลงร็อคอย่าง "เอลวิส เพรสลีย์" อย่างกะทันหัน ก่อนที่ทั้งคู่จะเลิกรากันไป เมื่อปี พ.ศ.2539 โดยไม่มีบุตรด้วยกัน แต่จากนั้น ไมเคิล ได้มีบุตร 3 คน โดย 2 คนแรกเกิดจากการผสมเทียม กับภรรยาเก่า "เด็บบี้ โรวว์" โดยลูกชายคนโตชื่อว่า "ปรินซ์ไมเคิลที่ 1" (Prince Michael Jackson I) ส่วนลูกสาวคนที่สองชื่อ "ปารีส ไมเคิล" (Paris Michael Katherine Jackson) และลูกชายคนเล็กนั้น ชื่อว่า "ปรินซ์ไมเคิลที่ 2" (Prince Michael Jackson II) โดยที่ไม่เคยมีการเปิดเผยว่าใครเป็นแม่ของเด็ก




ไมเคิล แจ็คสัน กับลูกชายคนโต



ลูกสาวและลูกชายคนเล็กของไมเคิล แจ็กสัน


          อย่างไรก็ตาม ไมเคิลยังปรากฎเป็นข่าวอยู่เสมอๆ โดยมีข่าวลือเกี่ยวกับตัวไมเคิล ออกมาต่างๆ นานา ทั้งเรื่องที่ว่า เขาป่วยเป็นโรคมะเร็งผิวหนังชนิดหนึ่ง ที่ไม่สามารถทำให้ผิวหนังบางส่วนสามารถผลิตเม็ดสีได้ ส่งผลให้บริเวณนั้นซีดจางกว่าบริเวณอื่น เพราะไมเคิลมักปรากฎตัวด้วยลักษณะคล้ายคนป่วย ซีดเซียว บางครั้งก็นั่งรถเข็น หรือใช้ไม้เท้าช่วยเดิน

          ซ้ำยังมีข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับการที่ ไมเคิล ลวนลามเด็กผู้ชายออกมาให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง จนกระทั่งในเดือนมิถุนายน พ.ศ.2548 ไมเคิล ต้องขึ้นศาลฟังคำพิพากษาในคดีข่มขืนเด็กชายผู้หนึ่ง ซึ่งบทสรุปจบลงที่ศาลจะพิพากษายกฟ้องไป ก่อนจะเป็นข่าวอีกครั้ง หลังไมเคิล อุ้มลูกของตัวเองซึ่งยังเป็นทารกอยู่ ออกมาทักทายแฟนๆ และทำท่าจะทิ้งดิ่งลูกลงมาจากหน้าต่างโรงแรม จนได้รับเสียงตำหนิจากสังคมอย่างหนัก




ไมเคิลถูกโจมตีอย่างหนัก หลังอุ้มลูกชายอย่างน่าหวาดเสียว


          หลังจากนั้น ข่าวคราวของไมเคิล ได้เงียบหายไปพักหนึ่ง ก่อนไมเคิลจะออกมาประกาศว่า จะกลับคืนสู่เวทีคอนเสิร์ตอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นครั้งแรก ในรอบ 12 ปี ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในวันที่ 13 กรกฎาคม 2552 ซึ่งบัตรชมการแสดงนั้นถูกจำหน่ายหมดภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง และไมเคิล ยังมีโปรแกรมจะทัวร์คอนเสิร์ตไปต่อเนื่องจนถึงเดือนมีนาคม ปี 2010 อีกด้วย ซึ่งคอนเสิร์ตครั้งนี้ต้องเพิ่มรอบแสดงเป็น 50 รอบเลยทีเดียว

          แต่ก่อนที่ ไมเคิล แจ็คสัน จะได้กลับขึ้นแสดงคอนเสิร์ตอีกครั้ง แฟนเพลงทั่วโลกกลับต้องได้รับข่าวร้าย เมื่อไมเคิล แจ็คสัน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลยูซีแอลเอ ในนครลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐฯ หลังหัวใจหยุดเต้นกระทันหัน ก่อนที่แพทย์ในโรงพยาบาลลอสแองเจลิส จะแถลงยืนยันว่า ไมเคิล แจ็คสัน ได้เสียชีวิตลงเมื่อเวลา 14.26 น. ตามเวลาในท้องถิ่น หรือตรงกับเวลาในประเทศไทย 02.26 น. ของเช้าวันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน ด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลัน ในวัย 50 ปี

          ข่าวนี้สร้างความตื่นตะลึงให้คนทั่วโลก และนับเป็นการปิดฉากชีวิตของราชาเพลงป๊อบผู้โด่งดัง ที่เรียกได้ว่า เป็นนักร้องที่ใครๆ ก็รู้จัก และเป็นขวัญใจของใครหลายคนทั่วโลก


 ประวัติ

          ชื่อเต็ม : ไมเคิล โจเซฟ แจ็คสัน (Michael Joseph Jackson)
          ชื่อที่เรียก : ไมเคิล แจ็คสัน (Michael Jackson),เอ็มเจ (MJ),แจ็คโก้ (Jacko)
          วันเกิด : 29 สิงหาคม 1958 (พ.ศ.2501)
          สถานที่เกิด : อินเดียน่า สหรัฐอเมริกา
          บิดา : นายโจเซฟ แจ็กสัน
          มารดา : นางแคธารีน แจ็กสัน
          พี่น้อง : แจ็กสันมีพี่น้อง 9 คน แจ๊กสัน เป็นคนที่ 7
          ที่อยู่ : คฤหาสน์ "เนเวอร์แลนด์" (คฤหาสน์ผสมสวนสนุก) ลอสแองเจลิส ประเทศหรัฐอเมริกา
          แนวเพลง : ป๊อบ, อาร์แอนด์บี
          อาชีพ : นักร้อง นักแต่งเพลง นักแสดง นักเต้น นักออกแบบท่าเต้น โปรดิวเซอร์เพลง ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2511 - ปัจจุบัน